เรียกได้ว่าสถานการณ์โควิด-19 นั้น แทบจะเป็นคลื่นยักษ์ที่ซัดเข้ามาพลิกทุกการใช้ชีวิตของคนบนโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการทำงานและเศรษฐกิจที่เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง
โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับวิถีชีวิตการทำงานที่เปลี่ยนไปเป็นแบบ Work From Home หรือบางที่ก็เรียกว่า Hybrid Working วัฒนธรรมการเข้างานที่ยืดหยุ่น ส่งผลให้ผู็คนมีอิสระในการบริหารเวลาส่วนตัวมากขึ้น จนเลือกที่จะมองหา “อาชีพเสริม” เพื่อเพิ่มรายได้…
แต่ทำไมต้องหารายได้เพิ่มอีก ในเมื่อก็มีเงินเดือนใช้ อีกทั้งยังได้ต้องเดินทางไปกลับออฟฟิศในทุก ๆ วัน ปัจจัยอะไรที่เข้ามาเปลี่ยนให้สังคมเมืองต้องดิ้นรนกันมากขึ้น วันนี้เราจะมาเผยสาเหตุของปัญหาที่ทำให้คุณภาพชีวิตและการทำงานต้องดิ้นรน สะท้อนภาพสังคมเมืองที่ไม่ได้สบายอย่างที่คนส่วนมากวาดฝัน!
- เงินเฟ้อทำให้ค่าครองชีพสูงเกินจะรับมือไหว
ใครที่เคยกินอะไรเดิม ๆ ซื้อแต่ของเดิม ๆ แต่เงินในกระเป๋ากลับไม่เหลือเท่าเดิม นั่นแหละคือภาพสะท้อนของคำว่า “เงินเฟ้อ” ปัจจัยอันดับต้น ๆ หลังกระแสโควิดที่ทำให้ค่าครองชีพพุ่งสูง ในขณะที่รายได้ยังคงเท่าเดิม และไม่มีวี่แววจะขยับไปไหน ส่งผลให้หลาย ๆ คนต้องเริ่มดิ้นรน มองหางานที่สอง ที่สามมารองรับ เพื่อที่จะหารายได้เสริมมาเพิ่มสภาพคล่องทางการเงินไม่ให้สะดุด จนพลาดล้มในวันที่เศรษฐกิจย่ำแย่แบบนี้
- คุณภาพชีวิตที่ดี ต้องแลกมาด้วยราคาที่แสนแพง
นอกจากเงินจะเฟ้อแล้ว สิ่งที่เป็นปัญหาชนิดที่เรียกว่าซิกเนเจอร์ของสังคมเมืองเลยก็คือ “คุณภาพการใช้ชีวิต” ไม่ว่าจะเป็นอาหารการกิน การเดินทาง สุขอนามัย การเข้าถึงโรงพยาบาลที่มีมาตรฐาน ล้วนแต่ต้องแลกมาด้วยค่าใช้จ่ายที่มีตัวเลขสูง จนทำให้กระทบต่อรายได้รายเดือนชนิดที่ว่าไม่เหลือเงินให้เก็บออม จึงไม่แปลกที่เด็กจบใหม่สมัยนี้จะไม่สามารถสร้างตัวได้อย่างรวดเร็ว นั่นก็เป็นเพราะว่าต้นทุนการใช้ชีวิตที่สูงจนกัดกินอนาคตนั่นเอง